วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

ท่านจะมีชัยชนะสิบประการ แลอ้วนเสี้ยวจะแพ้สิบประการ

ในหนังสือเรื่องสามก๊กมีตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับอุปนิสัยใจคอของบุคคลต่างๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อด้อย มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน โจโฉก็เป็นบุคคลหนึ่งที่น่ายกย่องในมุมมองของความเป็นผู้นำและนักปกครอง ความตอนหนึ่งจากเรื่องสามก๊ก เป็นคำกล่าวของที่ปรึกษากุยแกที่ว่า ข้าพเจ้าเห็นท่านจะมีชัยชนะสิบประการ แลอ้วนเสี้ยวจะแพ้แก่ท่านสิบประการ เป็นความตอนหนึ่งในเรื่องสามก๊ก เวลานั้น อ้วนเสี้ยวปราบปรามกองซุนจ้านลงได้ และได้ผนวกเอาเมืองทั้งสี่เข้าด้วยกัน จนมีกำลังทหารแสนคนเศษ และกำลังจะกรีธาทัพบุกเมืองฮูโต๋ โจโฉใจอยากจะยกออกต่อต้าน แต่ก็ลังเลใจและหวาดกลัวจึงได้ขอคำแนะนำจากกุยแกว่า "เปิ่นซู(ชื่อรองของอ้วนเสี้ยว)มีทหารในเมืองกิจิ๊วมากมาย ทั้งเมืองเฉงจิ๋วและเป๊งจิ๋วก็ยอมขึ้นต่อ ทำให้เขามีกำลังทหารมาก มีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล เรียกว่ามีแสนยานุภาพไม่น้อยทีดียว ข้าอยากเข้าตีเขา แต่กำลังสู้เขาไม่ได้จะให้ทำประการใดดี"(จากชีวประวัติกุยแก บทที่ 14 ซานกั๋วจื้อ)
กุยแกจึงว่าครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจกับพระเจ้าฌ้อปาอ๋องทำการศึกนั้น พระเจ้าฌ้อปาอ๋องกล้าแข็ง และก็มีทหารเป็นอันมาก ฝ่ายพระเจ้าฮั่นโกโจนั้น ทหารก็น้อยแต่ชำนาญในการศึก คิดเอาชัยชนะพระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ เนื้อความทั้งนี้ก็ย่อมแจ้งอยู่ ซึ่งอ้วนเสี้ยวมีทหารเป็นอันมากแต่หาความคิดมิได้ ท่านอย่าปรารมภ์ด้วยทหารเราน้อย ถ้ายกไปทำการศึกแก่อ้วนเสี้ยว ข้าพเจ้าเห็นท่านจะมีชัยชนะสิบประการ แลอ้วนเสี้ยวนั้นจะแพ้แก่ท่านสิบประการ โจโฉจึงถามว่าเราจะชนะสิบประการนั้น แลอ้วนเสี้ยวจะแพ้สิบประการนั้นฉันใด ท่านจงวิตถารให้เราแจ้ง
กุยแกจึงว่าท่านจะชนะสิบประการนั้นคือ
...ท่านมิได้ถือตัว ถ้าจะทำการสิ่งใจถึงผู้น้อยจะขัดท่านว่าผิดแลชอบ ท่านก็เห็นด้วย ประการหนึ่ง
...น้ำใจท่านโอบอ้อมอารีต่อคนทั้งปวง แล้วจะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนแต้เป็นประมาณ คนทั้งหลายก็ยินดีด้วย ประการหนึ่ง
...ท่านจะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิ์ขาด มีสง่า คนทั้งปวงยำเกรงท่านเป็นอันมาก ประการหนึ่ง
...ใจท่านสัตย์ซื่อ เลี้ยงทหารโดยยุติธรรม ถึงญาติพี่น้องผิดก็ว่ากล่าวมิเข้าด้วยผู้ผิด ประการหนึ่ง
...ท่านจะคิดทำการสิ่งใดเห็นเป็นความชอบก็ตั้งใจทำไปจนสำเร็จ ประการหนึ่ง
...ท่านจะรักผู้ใดก็รักโดยสุจริตมิได้ล่อลวง ประการหนึ่ง
...ท่านเลี้ยงคนซึ่งอยู่ใกล้กับอยู่ไกล ถ้าดีแล้วเลี้ยงเสมอกัน ประการหนึ่ง
...ท่านคิดการหนักหน่วงให้แน่นอนแล้วจึงทำการ ประการหนึ่ง
...ท่านจะทำการสิ่งใดก็ทำตามขนบธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
...ท่านชำนาญในกลสงคราม ถึงกำลังข้าศึกมากกว่าท่าน ท่านก็คิดเอาชัยชนะได้ เป็นประการ
ฝ่ายอ้วนเสี้ยวจะแพ้ท่านสิบประการนั้นคือ
...อ้วนเสี้ยวเป็นคนถืออิสริยยศ มิได้เอาความคิดผู้ใดประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวเป็นคนหยาบช้า ทำการโดยโวหาร ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวจะว่ากิจการสิ่งใดมิได้สิทธิ์ขาด ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวเห็นแก่ญาติพี่น้องของตัว มิได้ว่ากล่าวตามผิดแลชอบ ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวจะคิดการสิ่งใด มักกลับเอาดีเป็นร้ายเอาร้ายเป็นดี มิได้เชื่อใจของตัว ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวจะเลี้ยงผู้ใดมิได้ปรกติ ต่อหน้าว่ารัก ลับหลังว่าชัง ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวมักรักคนชิดซึ่งประสมประสาน ผู้ใดห่างเหินถึงซื่อสัตย์ก็มีใจชัง ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวกระทำความผิดต่างๆ เพราะฟังคำคนยุยง ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวจะทำการสิ่งใด เอาแต่อำเภอใจ มิได้ทำตามอย่างธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
...อ้วนเสี้ยวมิได้รู้ในกลศึก แต่มักพอใจทำการศึกล่อลวง จะชนะก็ไม่รู้จะแพ้ก็ไม่รู้ เป็นสิบประการ
ข้าพเจ้าจึงว่าท่านจะชนะสิบประการ อ้วนเสี้ยวจะแพ้สิบประการ ดังนี้
ในที่สุดโจโฉก็มีชัยเหนืออ้วนเสี้ยวในการยุทธ์ที่กัวต๋อเมื่อปี พ.ศ.743

ในภาวะปัจจุบันที่ต้องแข่งขันกันทางด้านเศรษฐกิจ ความเป็นผู้นำของผู้นำองค์กรหรือหัวหน้างาน มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากสามารถศึกษาได้จากตำราสามก๊กนี้แล้ว แม้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งก็ตามทีจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำพาองค์กรไปสู่ความเติบโตที่ยั่งยืน.....สวัสดี

เอกสารอ้างอิง:
1) สามาก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน)
2) กลยุทธ์กุนซือ ฉบับเจ็ดยอดกุนซือในสามก๊ก, อดุลย์ รัตนมั่นเกษม เรียบเรียง, ทองแถม นาถจำนง บรรณาธิการ

ไม่มีความคิดเห็น: